เจดีย์พระบรมธาตุนครศรีธรรมราช
วัดพระบรมธาตุวรมหาวิหาร
ตั้งอยู่ถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นวัดอารามหลวงชั้นเอก
ขั้นบรมวรมหาวิหาร
มีตำนานกล่าวไว้ว่าเมื่อพระพุทธเจ้าดับขันธ์ปรินิพาน
เมืองต่างๆ ในชมพูทวีป ได้มีการแบ่งพระบรมสารีริกธาตุไปเคารพบูชา
ซึ่งเมืองทนธบุรีได้พระทันตธาตุเก็บไว้บูชา ต่อมากษัตริย์เมืองอื่นยกทัพมาขอแบ่งพระทันตธาตุ
กษัตริย์สิงหราชเจ้าเมืองทนธบุรีเกรงว่าจะรักษาเมืองไม่ได้
จึงให้พระนางเหมชาลาและเจ้าชายธนกุมารอัญเชิญลงเรือหนีไปลังกา แต่เรือกำปั่นได้ถูกพายุพัดเรือแตก
น้ำซัดทั้งสองพระองค์ มา ณ หาดทรายแก้ว เจ้าชายธนกุมารและพระนางเหมชาลาและบาดู
(แปลวา นักบวช) ชาวลังกา นำพระทันตธาตุส่วนหนึ่งเก็บประดิษฐานไว้ในเจดีย์องค์เล็กๆ
มีศิลปะการก่อสร้างแบบศรีวิชัย ในปี พ.ศ. 854
และอีกส่วนหนึ่งพระนางเหมชาลาและเจ้าชายธนกุมารได้อัญเชิญกลับไปลังกา
ต่อมาเมื่อ
พ.ศ. 1093
ในสมัยของพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช (พระเจ้าจันทรภานุ)
สร้างเมืองนครศรีธรรมราช ได้ทรงสร้างเจดีย์ขึ้นใหม่เป็นทรงศาญจิ
และในปี
พ.ศ. 1770 พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ได้มีการนิมนต์พระภิกษุชาวลังกามาตั้งคณะสงฆ์และบูรณะพระบรมธาตุเป็นเจดีย์แบบทรงลังกา พระสถูปเป็นรูปทรงระฆังคว่ำ หรือ โอคว่ำ ถัดขึ้นไปมีฐานสี่เหลี่ยมรองรับส่วนยอด
เสาที่อยู่แต่ละด้านของฐานมีพระพุทธรูปปูนปั้นประดับอยู่ 4 ด้าน ส่วนเสาแต่ละมุมของฐานมีรูปปั้นพระสาวรกเดินจงกรมติดประจำเสา
ทั้ง 4 มุม ส่วนถัดขึ้นไปของยอดนี้มีปล้องไฉน 52 ปล้อง
แล้วมีบัวคว่ำบัวหงายรับปลียอดซึ่งหุ้มด้วยทองคำแผ่เป็นแผ่นหนาเท่าใบลานหุ้มไว้
น้ำหนัก 800 ชั่ง (960 กิโลกรัม)
สูง 6 ศอก (2 เมตร)
1 วา(0.50 เมตร) รอบพระสถูปมีลานประทักษิณ
และมีเจดีย์ประดิษฐาน 158 องค์ รอบองค์พระมหาธาตุ
เมื่อสร้างพระบรมธาตุเจดีย์เสร็จจะมีงานพีธีสมโภชพระบรมธาตุ
ที่ชายหาดปากพนัง ชาวบ้านปากพนังได้พบผ้าแถบยาวผืนหนึ่งที่ถูกคลื่นซัดมา
ในผ้าแถบนี้มีภาพเขียนเป็นเรื่องพุทธประวัติ ชาวบ้านจึงนำไปถวายพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช
พระองค์รับสั่งให้ซักผ้าผืนนั่นจนสะอาดจนเห็นภาพพระพุทธประวัติชัดเจน เรียกกันว่า “ผ้าพระบฎ” และรับสั่งให้ประกาศหาเจ้าของ
จนได้ความว่าชาวพุทธชาวหงสากลุ่มหนึ่ง จะนำผ้าพระบฎไปบูชาพระพุทธบาทที่ศรีลังกา แต่เรือได้เจอกับพายุมีผู้รอดชีวิต 10 คน
และผ้าก็ถูกน้ำซัดมาติดชายหาดที่ปากพนัง ดังนั้นพระเจ้าศรีธรรมาโศกราชทรงมีความเห็นว่า ควรนำผ้าพระบฎไปห่มพระบรมธาตุเจดีย์เนื่องในโอกาสสมโพชพระบรมธาตุ เจ้าของผ้าพระบฎก็มีความยินดีถวายผ้า การห่มผ้าพระบรมธาตุจึงเป็นประเพณีสืบต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
ช่วงเวลาที่ห่มพระบรมธาตุ
แต่เดิมการห่มพระบรมธาตุทำปีละ 2 ครั้ง คือ ในวันมาฆบูชา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 และในวันวิสาขบูชา
ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 แต่ในปัจจุบันการห่มพระบรมธาตุทำในวันมาฆบูชา
ขึ้น15 ค่ำ เดือน 3 สีที่นิยมมี สีแดง สีขาว และสีเหลือง
ความยาวขึ้นอยู่กับความศรัทธาของพุทธศาสนิกชน
ในสมัยกรุงศรีอยุธยา
เมืองนครศรีธรรมราชเป็นเมืองพระยามหานคร
มีหัวเมืองใหญ่น้อยอยู่ในการปกครอง สมัยก่อนเมืองนครศรีธรรมราชถูกเรียกว่า
เมืองสิบสองนักษัตร เพราะใช้เครื่องหมายรูปสัตว์ตามจักรราศี ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเมืองนครศรีธรรมราชยังมีชื่อเสียงในเรื่องการทำเครื่องถม
อีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น